สุขอนามัยในการนอน

ภัยเงียบยามค่ำคืนจาก Bedbug อันตรายที่ใครหลายคนไม่เคยรู้!

เคยไหม หลังจากตื่นนอนแล้ว รู้สึกคันตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ใบหน้า แขนขา อาจมีเม็ดตุ่มใสขึ้นมาด้วย นั้นหมายความว่าที่นอนของคุณกำลังถูกตัว Bedbug หรือ ตัวเรือด มารบกวนแล้ว ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าคือตัวอะไรกันแน่ ใช่ตัวไรฝุ่นหรือไม่ ดาร์ลิ่งมีคำตอบ
 
Bedbug หรือ ตัวเรือด

 จะทำให้เราเกิดอาการคัน และเจ็บเพราะถูกกัด แต่ถ้าเป็นตัวไรฝุ่นจะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ไอ จาม อีกทั้งตัวเรือดจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวไรฝุ่น สามารถโตได้ถึง 5.5-6.5 มิลลิเมตร ส่วนไรฝุ่นจะมีขนาดเพียง 0.25-0.3 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวเรือดจะมีชีวิตอยู่ได้โดยการเจาะดูดเลือดมนุษย์ในตอนที่เรานอนหลับในเวลากลางคืน ตัวเรือดจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที โดยธรรมชาติทั่วไปของตัวเรือดมักจะออกมาหากินทุก 5-10 วัน โดยอาศัยการติดตามก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของคน

ตัวเรือดมักจะชอบอาศัยในบริเวณซอกหลืบ ช่องเล็กต่างๆ หรือรอยแตกของเตียง ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

ปากของตัวเรือดมีลักษณะเป็น 2 ท่อ ไว้สำหรับเจาะแทรกเข้าไปใต้ผิวหนังและอีกท่อหนึ่งที่จะทำการปล่อยน้ำลายที่มีสารป้องกันเลือดแข็งตัว ทำให้เกิดอาการชา และอีกท่อหนึ่งในการดูดเลือด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ที่ถูกตัวเรือดดูดเลือดจึงไม่รู้สึกเจ็บหรือคันทันที แต่จะเริ่มมีอาการคันหลังจากสารที่ทำให้ชาหมดฤทธิ์ลงแล้วนั้นเอง ตัวเรือดสามารถทนความเย็นต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสได้ด้วยการเข้าสู่ภาวะกึ่งจำศีล และสามารถมีชีวิตอยู่ได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศงเซลเซียสได้ถึง 5 วัน อีกทั้งตัวเรือดสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้จะไม่ได้กินเลือดนานหลายเดือนอีกด้วย

วางไข่ได้มากถึง 500 ฟอง

อาจวางไข่ได้มากถึงวันละ 12ฟอง ตลอดชีวิตตัวเรือดตัวเมีย สามารถวางไข่ได้มากถึง 500 ฟอง บริเวณที่เรือดชอบวางไข่ ได้แก่ หัวเตียง ใต้ไม้หัวเตียง ขอบเตียง กรอบไม้ใต้เตียง และบริเวณรอบๆ ห้อง บนที่นอนตามส่วนต่างๆ เช่น ขอบที่นอน ใต้ที่นอน อีกทั้งโต๊ะข้างเตียง โคมไฟ พรม โต๊ะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้

อันตรายจากตัวเรือด

การกัดของตัวเรือดจะส่งผลในแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป บางคนอาจไม่รู้สึกตัวว่าถูกกัด แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้จนเป็นรอยบวมแดงคล้ายขนาดใหญ่ ซึ่งรอยกัดของตัวเรือดอาจจะคันได้นานถึง 2 สัปดาห์เลยทีเดียว ยิ่งห้องนอนและที่นอนมีจำนวนตัวเรือดมากก็จะส่งผลต่อรอยกัดที่มากขึ้นเป็นบริเวณกว้าง เพราะตัวเรือดมีขนาดเล็กมาก จึงสามารถซ่อนตัวอยู่ในที่ต่าง ๆ ได้ อีกทั้งสามารถแพร่พันธุ์ได้เร็วมาก ตัวเรือดตัวเมียหนึ่งตัวสามารถขยายพันธุ์เป็นหลายสิบตัวได้เพียงแค่ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์อีกด้วย

วิธีการรักษาเมื่อถูกตัวเรือดกัด

เมือถูกตัวเรือนกัดเป็นตุ่มบวม ห้ามแกะหรือเกาเพราะจะทำให้ตุ่มบวมนั้นอักเสบมากขึ้นไปอีก ควรรับประทานยา Antihistamine ซึ่งเป็นยาแก้แพ้และช่วยลดอาการคันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ Hydrocortisone หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น บริเวณที่ถูกตัวเรือดกัดมีการบวมแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ควรพบแพทย์เพื่่อทำการรักษา เนื่องจากร่างกายมีภาวะแพ้ตัวเรือดนั้นเอง

ทำความสะอาดและป้องกันตัวเรือด

ตัวเรือดสร้างความปัญหาสุขภาพให้กับเรา โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้และในเด็กเล็ก ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก ควรหมั่นตรวจดูแลความสะอาดตามซอกเล็กๆ ส่วนต่างๆ ของบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอน ควรอุดรอยแตกที่บริเวณผนังต่างๆ แม้ว่าความไม่สะอาดจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มีตัวเรือด แต่การดูดฝุ่นทำความสะอาดเครื่องนอนและห้องนอนอยู่เป็นประจำ ซักทำความสะอาดเสื้อผ้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 46 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที สามารถช่วยกำจัดตัวเรือดและไข่ที่ติดอยู่ได้ ส่วนที่นอนต้องแบบพิเศษทำ ความสะอาดและควรพ่นไอน้ำร้อนร่วมด้วย เพื่อตัดวงจรการแพร่ขยายพันธุ์ อีกทั้งเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาเดทตอล ตามพื้น เตียง โซฟา เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพื่อเป็นการกำจัดไข่ตัวเรือดและต่วอ่อนที่อาจตกค้างอยู่

สุขลักษณะที่ดีของบ้านและห้องนอนเป็นเรื่องที่ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างมาก ถ้ายิ่งในบ้านของคุณมีเด็กเล็กเพราะเสี่ยงต่อภาวะการเจ็บป่วยได้ง่ายมาก เพื่อให้การนอนหลับพักผ่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดีอีกด้วย

ที่นอนดาร์ลิ่งหลายรุ่น ใช้ผ้าหุ้มคุณสมบัติต่อต้านตัวเรือด anti bedbug มีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีการคิดค้นจากเบลเยี่ยม เหมาะสำหรับโรงแรมต่าง ๆ เป็นพิเศษ เนื่องจากตัวเรือดมักเดินทางมากับกระเป๋าเป้ ของนักท่องเที่ยว จึงสามารถแพร่พันธ์ุได้ในโรงแรมทุกระดับราคา

Darling Spring Foam
ลิขสิทธิ์บทความของ ที่นอน Darling
ผู้จัดจำหน่าย ที่นอนคุณภาพกว่า 50 ปี การันตีคุณภาพด้วยรางวัล 
PM(Prime Minister), Award Professional Trade Award, 
ISO 9001:2000 และ Thailand Trust Mark